[bspolarbear]

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-2023 กำลังจะกลับมาเปิดฉากในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งก็มีหลายๆ กฏที่มีการเปลี่ยนแปลงและถูกบัญญัติ เข้าไปเพื่อเพิ่มความสนุก และควบคุมผู้เล่นรวมถึงทีม

พรีเมียร์ลีก และคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (IFAB/ องค์กรที่มีสิทธิ์ปรับเปลี่ยนกฏกติกาการแข่งขันฟุตบอล) ได้ปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่ง givemesport ได้สรุปการเปลี่ยนแปลงของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-2023 หรือพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 31 ที่จะกลับมาเปิดฉากในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ (คู่เปิดสนาม คริสตัล พาเลซ พบ อาร์เซน่อล) มาให้ได้เข้าใจกัน ที่มีจำนวน 7 ข้อ



1.มัลติบอล ใช้ฟุตบอล 10 ลูก
ฤดูกาลที่ผ่านมา สถิติ "การครองบอล" โดยเฉลี่ยในพรีเมียร์ลีกต่ำที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ โดยใช้เวลาเพียง 55 นาที 3 วินาทีต่อนัด ซึ่งทางด้าน เดลี่ เมล ได้ออกมาเผยว่า พรีเมียร์ลีกจะนำระบบมัลติบอล หรือลูกฟุตบอลหลายๆ ลูก มาใช้สำหรับฤดูกาลใหม่ โดยจะใช้ 10 ลูกในแต่ละเกม เพื่อเพิ่มความเร็วในการเล่นและลดเวลาที่เสียไป
ฟุตบอล 10 ลูกนั้นจะแบ่งเป็นในสนาม 1 ลูก 1 ลูกกับผู้ตัดสินที่ 4 และอีก 8 ลูกจะถูกวางในจุดต่างๆ รอบสนาม แบ่งเป็น 2 ลูกหลังประตูแต่ละฝั่ง ซึ่งต้องไม่รบกวนการทำงานของฮอว์ก-อาย ที่ช่วยตัดสินว่าลูกบอลข้ามเส้นหรือไม่ และอีก 2 ลูกอยู่ที่แต่ละด้าน นอกจากนี้แต่ละทีมยังถูกสั่งให้มีเด็กเก็บบอลอย่างน้อย 8 คน ที่ต้องมองสบตากับผู้เล่นก่อนโยนบอลให้ และต้องให้ลูกบอลด้วยความเร็วเท่ากันต่อทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งตำแหน่งลูกบอลที่ถูกจัดวางจะต้องไม่รบกวนการตัดสินใจของ "Hawk-Eye” ด้วยเช่นกัน

2.เปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คน
ก่อนหน้านี้กฎดังกล่าวได้ถูกกำหนดมาใช้เพื่อสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในปี 2020 แต่ในฤดูกาล 2022-2023 ทั้งพรีเมียร์ลีก และ อีเอฟแอล จะเริ่มใช้กฎนี้แบบถาวร โดยสามารถเปลี่ยนตัวได้ 3 ครั้ง ระหว่างเกม และช่วงพักครึ่ง 1 ครั้ง และสามารถใส่รายชื่อนักเตะตัวสำรองข้างสนามได้ 9 คน

3.ตำแหน่งผู้รักษาประตูในการเตะลูกโทษ
ก่อนหน้านี้ กฎของเกมกำหนดว่าผู้รักษาประตูต้องยืนบนเส้นอย่างน้อยหนึ่งก้าวเมื่อต้องเผชิญกับจุดโทษ แต่ปัจจุบัน ผู้รักษาประตูได้รับอนุญาตให้ขยับเท้าข้างหนึ่งที่อยู่หลังเส้น การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ผู้รักษาประตูสามารถเริ่มต้นจากตำแหน่งที่ลึกกว่าและสร้างโมเมนตัมได้มากขึ้นกับการป้องกันประตู

4.เฉพาะผู้รักษาประตูเท่านั้นที่สามารถครองบอลในพื้นที่ได้
บางสิ่งที่โลกฟุตบอลนั้นรู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เขียนบัญญัติไว้อย่างชัดเจนในกฎ IFAB ได้จัดการเรื่องนี้ โดยกฎระบุว่าไม่มีใคร “ยกเว้นผู้รักษาประตูที่อยู่ในเขตโทษ” ที่สามารถจับหรือรับลูกบอลได้

5.เมื่อผู้เล่นไม่สามารถควบคุมตัวเองในระหว่างเกม
หากย้อนไปในปี 1995 เกมระหว่าง คริสตัล พาเลซ พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังดำเนินอยู่ แต่ เอริค คันโตน่า กองกลางของทีม "ปิศาจแดง" ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และไปกระโดดถีบแฟนบอลจนโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งทุกคนหวังว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก อย่างไรก็ตาม หาก “ผู้เล่นออกจากสนามเพื่อทำร้าย หรือเกิดเหตุการณ์แบบที่กล่าวมาอีก ในอนาคต ผู้ตัดสินจะต้องเริ่มการแข่งขันใหม่ด้วยการเตะฟรีคิกโดยอ้อม (indirect free-kick ) กับทีมฝั่งตรงข้าม ก่อนหน้านี้ กฎของเกมดังกล่าวยังไม่ได้เขียนอธิบายวิธีดำเนินการหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว

6.ผู้ตัดสินเป็นผู้โยนเหรียญแต่ผู้เดียว
มีการโยนเหรียญก่อนการแข่งขันก่อนเกมจะเริ่มเพื่อตัดสินใจว่าทีมใดจะเขี่ยเริ่มเล่น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทุกคนสามารถโยนเหรียญได้ ไม่ว่าจะเป็น มาสคอต นักกายภาพของทีม คนทำงานที่ร้านเบอร์เกอร์ ไม่มีกฎอย่างเป็นทางการที่ระบุว่าผู้ตัดสินจะต้องเป็นรายบุคคลในการพลิกเหรียญ ซึ่งกฎตรงนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย IFAB เพื่อให้ความรับผิดชอบตกอยู่ที่ผู้ตัดสินเท่านั้น

7.เจ้าหน้าที่ทีมอาจถูกไล่ออกระหว่างการยิงลูกโทษ
กฎนี้อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ (เว้นแต่จะลงเอยด้วยสถานการณ์เพลย์ออฟที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาล) แต่มีบางกรณีที่อาจส่งผลต่อกฎนี้คือเกมเพลย์ออฟ EFLเมื่อจบฤดูกาล ทั้ง แชมเปี้ยนชิพ,ลีก วัน และ ลีกทู