guest.

Users browsing this thread: 1 Guest(s)

Thread Rating:
  • 0 Vote(s) - 0 Average
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
1843 0
เสธ.หมึก วางเป้านักปั่นไทยคว้า 2 ทองซีเกมส์-ย้ำสู้เต็มร้อย เพื่อประเทศไทย
#1
[Image: 1-27.jpg]

เสธ.หมึก ย้ำนักปั่นทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ขอให้สู้อย่างสุดความสามารถ และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย โดยยังยืนยันเป้าหมายของทัพนักปั่นต้องคว้าอย่างน้อย 2 เหรียญทองขึ้นไป จากประเภทเสือภูเขา ดาวน์ฮิล และประเภทถนน โรดเรซทีมหญิง พร้อมเตือนนักปั่นทุกคนระวังเรื่องการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ดี อย่าออกไปไหนโดยไม่จำเป็น ขณะที่สตาฟฟ์โค้ชได้รับทราบข้อมูลสนามแข่งขัน ทั้งเสือภูเขาและถนน เป็นสนามที่ไม่ยากนักแต่ต้องใช้พลกำลังมาก

เสธ.หมึก – พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า การเตรียมทีมนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว โดยนักกีฬาประเภทถนน ยังคงฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากสตาฟฟ์โค้ช นำโดย นายหลี่ เสี่ยว เล่อ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวจีน และ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวไทย ส่วนประเภทเสือภูเขา ก็ปักหลักเก็บตัวอยู่ที่เขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี เรืออากาศเอก สุภัทร ศรีไสว หัวหน้าผู้ฝึกสอน ควบคุมดูแลการฝึกซ้อม

พลเอกเดชา กล่าวว่า ล่าสุด “โตมร” นายพูนศิริ ศิริมงคล และ น.ส.จริญญา สืบจากถิ่น สองนักปั่นเสือภูเขาครอสคันทรี่ ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งไปฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว โดยทั้ง 2 คนจะตามไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ในช่วงระยะเวลาที่เหลือ ซึ่งตามที่ได้รับรายงานจากสตาฟฟ์โค้ชทั้งประเภทถนน และเสือภูเขา ตอนนี้นักกีฬาทุกคนร่างกายฟิตสมบูรณ์ดี ไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ตนก็ได้แจ้งให้สตาฟฟ์โค้ชว่าขอให้ย้ำเตือนนักกีฬาว่าระวังเรื่องการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ดี อย่าออกไปไหนโดยไม่จำเป็น เพราะถ้าหากติดโควิด-19 ในช่วงสุดท้ายนี้คงหายไม่ทันการแข่งขันแน่


“นอกจากนั้นด้านอาหารการกินและอาหารเสริมที่จะนำไปประเทศเวียดนาม ก็ต้องเตรียมให้พร้อม อย่าให้ขาดตกบกพร่อง เนื่องจากเมืองที่จัดการแข่งขันจักรยานเป็นเมืองเล็ก ๆ ห่างจากกรุงฮานอย ถึง 90 กิโลเมตร สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ถือเป็นงานหนักของนักปั่นไทย เนื่องจากเราต้องเจอกับเจ้าภาพเวียดนามที่ได้เปรียบเราทุกด้าน อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้ให้กำลังใจแก่นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยทุกคนว่าขอให้สู้อย่างสุดความสามารถ และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย ขณะที่เป้าหมายในการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ยังยืนยันว่าอย่างน้อยต้อง 2 เหรียญทองขึ้นไป” พลเอกเดชา กล่าว

ด้าน ร.อ.สุภัทร ศรีไสว หัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานเสือภูเขาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า จากที่ได้รับข้อมูลสนามแข่งขันจักรยานเสือภูเขาในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ทราบมาว่า สภาพเส้นทางทั้งในประเภทดาวน์ฮิล และ ครอสคันทรี่ เป็นสนามแข่งขันที่ใช้กำลังมากกว่าทักษะ โดยสนามดาวน์ฮิล มีระยะทาง 2.1 กม. เป็นทางลงเนินเรียบ ๆ ทางเจ้าภาพจัดทำเนินกระโดดเป็นอุปสรรคไม่มากนัก พื้นผิวสนามเป็นดินลูกรังส่วนใหญ่ บางพื้นที่มีหินลอย และมีบางจุดที่นักกีฬาต้องใช้แรงปั่นขึ้นแต่ไม่มาก ส่วนสนามครอสคันทรี่ มีระยะทางรอบละ 5.2 กม. ซึ่งทางเจ้าภาพกำหนดว่าในรุ่นประชาชนชาย แข่งขัน 5 รอบ ส่วนรุ่นประชาชนหญิง แข่งขัน 4 รอบ ซึ่งการกำหนดรอบดังกล่าว ยังคงต้องรอการพิจารณาจากคณะผู้ตัดสินอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากทางสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) กำหนดให้การแข่งขันต้องใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง

“จากสภาพสนามดังกล่าว เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ โดยเฉพาะในประเภทดาวน์ฮิล ที่นักกีฬาตัวเต็งของไทยไม่ว่าจะเป็น นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ในรุ่นประชาชนชาย หรือ จ่าอากาศโทหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส ในรุ่นประชาชนหญิง ต่างก็มีจุดเด่นเรื่องเทคนิคที่เหนือกว่านักปั่นรายอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งทางสตาฟฟ์โค้ชก็ได้เตรียมให้นักกีฬาประเภทดาวน์ฮิลเสริมกำลังความแข็งแกร่งให้มากที่สุด เพื่อรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และนักกีฬาดาวน์ฮิลของไทยแต่ละคนก็ได้มีการเสริมความแข็งแกร่งทางร่างกายมาโดยตลอด จะเสียเปรียบนักกีฬาเจ้าภาพก็ในเรื่องเก็บรายละเอียดสนามแข่งขันที่เรามีเวลาซ้อมน้อยกว่าเท่านั้น ส่วนคู่แข่งชาติอื่น ๆ ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันมากในเรื่องการฝึกซ้อมสนามแข่งขัน มั่นใจว่าอย่างน้อยจะต้องมีหนึ่งเหรียญทองจากรายการดาวน์ฮิล” ร.อ.สุภัทร กล่าว

ร.อ.สุภัทร กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเภทครอสคันทรี่ สภาพพื้นผิวสนามใกล้เคียงกับดาวน์ฮิล และเป็นสนามที่เน้นหนักไปในการใช้แรงมากกว่าเทคนิคเช่นเดียวกัน จากสภาพการฝึกซ้อมของนักปั่นไทย มั่นใจว่าสามารถสู้ได้กับทุกชาติ ทั้งในครอสคันทรี่ชายและหญิง ส่วนที่ตั้งความหวังถึงเหรียญทองก็น่าจะเป็นครอสคันทรี่ทีมรีเลย์ เนื่องจากนักปั่นทีมชาติไทย มีส่วนผสมในทีมที่ได้เปรียบชาติต่าง ๆ อีกทั้่งยังมีประสบการณ์การแข่งขันมากกว่าชาติอื่น ๆในอีเวนต์นี้อีกด้วย

ขณะที่ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนประเภทถนน กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในประเภทถนน มีชิงชัยกันทั้งสิ้น 7 เหรียญทอง จากไทม์ไทรอัลบุคคลชาย-หญิง, ไครทีเรียมชาย-หญิง, โรดเรซบุคคล ชาย-หญิง และโร้ดเรซทีมหญิง จากการศึกษาสภาพเส้นทางต้องยอมรับว่าเป็นเส้นทางเรียบเกือบทั้งหมด อีกทั้งการแข่งขันประเภทถนนยังมีปัจจัยระหว่างการแข่งขันที่ทำให้คาดการณ์ได้ยากว่าสถานการณ์การแข่งขันจะออกมาในรูปไหน เนื่องจากในแต่ละอีเวนต์มีโอกาสที่จะต้องมาสปรินท์หาผู้ชนะกันหน้าเส้นชัยเกือบทั้งหมด

โค้ชวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า รายการที่เรามั่นใจว่ามีโอกาสไปถึงเหรียญทองก็คือโรดเรซทีมหญิง เนื่องจากนักปั่นในทีม ไม่ว่าจะเป็น ร้อนเอกหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช, พันตรีหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน, สิบตรีหญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ, น.ส.กมลรดา ขาวปลอด ต่างก็มีความแข็งแกร่งและประสบการณ์การแข่งขันสูง นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในทีมใกล้เคียงกันมาก สามารถทดแทนกันได้ตลอด ขณะที่ชาติอื่น ๆ จะมีตัวเด่นจริง ๆ ก็ชาติละคนสองคนเท่านั้น.


Forum Jump: