07-10-2022, 01:23 PM
ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยเลยว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือหนึ่งในผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในยุคปัจจุบัน
ยอดกุนซือวัย 51 ปีจับงานคุมทีมในลีกสูงสุดมานานเกินกว่าหนึ่งทศวรรษแล้วกับทั้งในลีกสเปนบ้านเกิด, เยอรมัน และล่าสุดอังกฤษ
นับตั้งแต่สร้างชื่อพา บาร์ซ๋า คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สองสมัย ล่าสุดผู้จัดการทีมชาวกาตาลันยังได้สัมผัสกับโทรฟี่อีกตามเคยเมื่อพา แมนฯ ซิตี้ ซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้อีกคำรบเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน กวาร์ดิโอล่า ผ่านการร่วมงานกับพ่อค้าแข้งระดับท็อปของวงการมาโดยตลอดอย่างในซัมเมอร์นี้เขาจัดแจงฉุด เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ , ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ คัลวิน ฟิลลิปส์ มาร่วมทีม เรือใบสีฟ้า ต่อจาก แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ค่าตัว 100 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ดี จากวันนั้นจนถึงวันนี้ กวาร์ดิโอล่า ย่อมมีนักเตะที่เขาให้ความไว้วางใจส่งลงบู๊เป็นประจำ
และหากเปรียบเป็นการติดทีมชาติ นี่คือทีมรวมดารา 11 นักเตะที่กุนซือสกินเฮดเรียกตัวลงเล่นมากที่สุดภายใต้ระบบ 4-3-3
-ผู้รักษาประตู
-เอแดร์ซอน : 241 นัด
นายทวารทีมชาติบราซิลมีส่วนสำคัญช่วยให้ เรือใบสีฟ้า ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก สี่ครั้งจากห้าซีซั่นหลังถูกดึงตัวมาจาก เบนฟิก้า เมื่อปี 2017
และในเวลาเพียงไม่นาน เขาก็กลายเป็นนักเตะคนโปรดของสาวกแห่งถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม จากการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการปกป้องตาข่าย และความสามารถในการใช้เท้าซึ่งเป็นข้อด้อยของ เคลาดิโอ บราโว่ จนทำให้มือกาวชาวชิลีสร้างชื่อกับสโมสรไม่ได้
-กองหลัง
-ไคล วอล์คเกอร์ : 215 นัด
ย้ายมาในตลาดเดียวกับ เอแดร์ซอน และทำให้ แมนฯ ซิตี้ มีแผงหลังที่แข็งแกร่งมากขึ้นในฐานะแบ็คขวาจอมบุก
แม้ กวาร์ดิโอล่า จะพยายามใช้บริการจาก บาการี่ ซาญ่า ฟูลแบ็ควัยดึกในตำแหน่งนี้ แต่มันก็ไม่ได้ผลจึงทำให้เขาตัดสินใจดึงตัวขุนพลทีมชาติอังกฤษมาจาก สเปอร์ส สโมสรร่วม พรีเมียร์ลีก
-จอห์น สโตนส์ : 195 นัด
สโตนส์ คือหัวใจสำคัญในแผงหลังของ แมนฯ ซิตี้ ตลอดหกซีซั่นที่ผ่านมา และเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนเดียวที่ กวาร์ดิโอล่า คว้าเข้ามาร่วมทีม และยังคงอยู่กับสโมสรจนถึงทุกวันนี้
ฉะนั้นแล้ว ดาวเตะทีมชาติอังกฤษจึงผ่านการเป็นคู่ขาของปราการหลังมาแล้วหลายรายไม่ว่าจะเป็น นิโกลัส โอตาเมนดี้ , รูเบน ดิอาส และ เอมเมอริค ลาปอร์กต์
-เคราร์ด ปิเก้ : 183 นัด
หลังย้ายจาก แมนฯ ยูไนเต็ด กลับสู่ บาร์เซโลน่า ในซัมเมอร์เดียวกับที่ กวาร์ดิโอล่า ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือเมื่อปี 2008 ปิเก้ ก็เป็นคีย์แมนของถิ่น คัมป์นู มาจนถึงปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ปราการหลังสแปนิชยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเช่นเดียวกับ คาร์เลส ปูโยล อีกด้วย
-เอริค อบิดาล : 142 นัด
อดีตกองหลังเฟรนช์แมนรับใช้ บาร์เซโลน่า รวมหกปีโดยแบ่งเป็นการร่วมงานกับ กวาร์ดิโอล่า สี่ปี
นอกจากจะมีส่วนช่วยให้ บาร์ซ่า ผงาดขึ้นเป็นยอดทีมแล้ว อบิดาล ก็สร้างชื่อเป็นปราการหลังชั้นยอดเช่นกันโดยปัจจุบันเขารีไทร์ไปแล้ว
-กองกลาง
-อิลคาย กุนโดกัน : 253 นัด
ในฐานะมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ กุนโดกัน จึงผ่านการลงเล่นมาแล้วหลายตำแหน่งในแผงกลางของ แมนฯ ซิตี้
และเท่าที่เห็น เขามักยิงประตูสำคัญให้ทีมอยู่บ่อยๆโดยซีซั่น 2020/21 เขากระทุ้งประตูได้มากที่สุดรวม 17 เม็ดในทุกรายการพา เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครอง อีกทั้งนัดสุดท้ายของซีซั่นที่ผ่านมา มิดฟิลด์ด๊อยทช์ก็แผลงฤทธิ์กดคนเดียวสองเม็ดพาทีมพลิกแซงชนะ แอสตัน วิลล่า ในบ้าน 3-2 ป้องกันแชมป์ลีกเมืองผู้ดีได้แบบหืดจับ
-เควิน เดอ บรอยน์ : 266 นัด
สตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยมพิสูจน์ให้หลายคนเห็นว่าคิดผิดที่ปรามาสเขาหลังย้ายกลับสู่ พรีเมียร์ลีก เมื่อเจ็ดปีก่อนทั้งๆที่เคยดับสนิทกับ เชลซี
นับตั้งแต่อำลา โวล์ฟสบวร์ก เดอ บรอยน์ กระทุ้งให้ทีมเงินถังของอังกฤษไปแล้ว 86 ประตู และกลายเป็นขุนพลชั้นยอดของทีมเช่นเดียวกับ ดาบิด ซิลบา และ เซร์คิโอ อเกวโร่
-แบร์นาร์โด้ ซิลวา : 251 นัด
เป็นอีกรายที่ถูกดึงมาเสริมทัพในปี 2017 และเป็นนักเตะอันดับสองที่มีค่าเฉลี่ย กวาร์ดิโอล่า เรียกใช้บริการมากที่สุดโดยที่ไม่นับรวมผู้รักษาประตู
เฉลี่ยแล้วในแต่ละซีซั่น ดาวเตะโปรตุกีส ได้ลงเล่นมากกว่า 50 นัด และแน่นอนว่าเขาเป็นกำลังสำคัญพาทีมประสบความสำเร็จเมื่อปีก่อนจากการตะบันได้ 13 ประตูในทุกรายการ
-กองหน้า
-ราฮีม สเตอร์ลิ่ง : 291 นัด
หลังรับใช้ กวาร์ดิโอล่า มาตลอดทั้งหกปี สเตอร์ลิ่ง ก็จ่อย้ายไปร่วมทีม เชลซี เนื่องจากในระยะหลังเขาไม่ใช่ขุนพลตัวจริงของสโมสรอีกต่อไปแล้ว
รวมแล้วดาวเตะทีมชาติอังกฤษสอยตาข่ายให้ เรือใบสีฟ้า ไปทั้งสิ้น 131 ประตูในทุกรายการ และกำลังจะจรดปากกาเป็นสมาชิกใหม่ของ สิงห์บลูส์ ภายใต้ค่าตัว 50 ล้านปอนด์
-กาเบรียล เชซุส : 236 นัด
ขุนพลทีมชาติบราซิลย้ายไปค้าเกือกกับ อาร์เซน่อล เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่ กวาร์ดิโอล่า ส่งลงเล่นมากที่สุดในอาชีพการคุมทีมของเขา
แน่นอนว่า เชซุส ยิงประตูสำคัญให้ แมนฯ ซิตี้ มาไม่น้อย และมีเกมที่น่าจดจำเมื่อเดือนเม.ย.ซึ่งเขากระซวกคนเดียวสี่เม็ดพาทีมเปิดบ้านยำใหญ่ วัตฟอร์ด 5-1
-ลิโอเนล เมสซี่ : 219 นัด
บอกได้เลยว่า กวาร์ดิโอล่า มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาฝีเท้าของ เมสซี่ ซึ่งสร้างชื่อเป็นดาวยิงตัวฉกาจของลีกยุโรปแม้ดาวเตะอาร์เจนไตน์จะมีรูปร่างที่เล็กจิ๋ว
รวมแล้ว เมสซี่ ได้ร่วมงานกับกุนซือสแปนิชสี่ปี และได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก สองครั้ง บวกกับแชมป์ ลา ลีกา อีกสองครั้งเช่นกัน